คุณผู้หญิงคะ คงไม่มีใครไม่อยากสวยเพรียว หุ่นดีเหมือนดารานางแบบ หลาย ๆ คนที่รูปร่างยังไม่ได้ใจ ก็เลยพยายามหาวิธีลดความอ้วนกันยกใหญ่ และวิธีที่สาวสมัยใหม่หันไปใช้กันมากเพราะง่ายและให้ผลเร็วดีก็คือ การกินยาลด ความอ้วนนั่นเองค่ะ
แต่คุณผู้หญิงคะ ดิฉันเองก็เคยอ้วนมาก่อน เคยแบกน้ำหนักถึง 80 กว่ากิโล กลุ้มอกกลุ้มใจมาก เห็นตัวเองในกระจกไรก็เกิดอาการหดหู่ ก็เลยไปปรึกษาแพทย์ แต่ไม่ใช่ตามคลินิคลดน้ำหนักนะคะ เป็นแพทย์ที่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว ซึ่งแพทย์ก็บอกว่า อย่าไปกินเลย ยาลดความอ้วนน่ะ กินเข้าไปแล้วจะมีผลกระทบร้าย ๆ ต่อร่างกายตามาเยอะเชียว เพราะตามสถานที่ที่โฆษณาว่าลดความอ้วนนั้น เขาจะให้ยาเรา ใน 3 ขั้นตอน * ยาขับปัสสาวะ ยาถ่าย กินเข้าไปเห็นผลว่าน้ำหนักลดลงไปเลยตั้งกิโล สองกิโล แต่แล้วน้ำหนักก็ขึ้นมาเหมือนเดิม เพราะเราไม่ได้ถ่ายอย่างเดียว เราต้องกินเข้าไปด้วย * ต่อมาเขาก็จะให้ยาที่เรารู้จักกันว่า ยาไทรอยด์ ซึ่งโดยปกติจะใช้กับผู้ที่มีภาวะพร่อง ไทรอยด์ ยานี้จะทำให้มีการเผาผลาญพลังงานในร่างกายสูง และทำให้เราเบื่ออาหารด้วย * และสุดท้ายก็จะให้ยากลุ่มแอมเฟตามีน หรือยาบ้านั่นเอง ยานี้ทำให้เบื่ออาหารและกระตุ้นประสาท ทำให้กระวนกระวาย กระสับกระส่าย อยู่ไม่สุข ฟังดูน่ากลัวค่ะ น้ำหนักก็ไม่ได้ลดถาวร แถมยังทำลายสุขภาพดี ๆ ของเราไปเสียอีก แล้วแบบนี้จะลด ความอ้วนได้อย่างไรล่ะ ..คุณหมอคนเดิมบอกว่า ถ้าต้องการลดน้ำหนัก ก็ต้องลดอาหาร ต้องออกกำลังกาย แต่แหม ๆ พูดน่ะง่าย แต่ทำจริงไม่ง่ายเลยนะ แต่คุณผู้หญิงคะ นับจากวันที่คุยกับคุณหมอคนนั้นแล้ว จนปัจจุบันผ่านมาประมาณ 6 เดือน น้ำหนักของดิฉันลดลงไป 20 กว่ากิโลแล้วค่ะ ตอนนี้กลับมามีความมั่นใจกับ รูปร่างของตัวเอง วิธีการก็คือวิธีที่ฟังดูง่ายแต่ทำยากนั่นแหละ ลดอาหาร และออกกำลังกาย แต่สิ่งที่สำคัญมาก ๆ เลย ก็คือความอดทนค่ะ ทนอยาก ทนหิว ทนเหนือย แต่เมื่อผ่านมาได้ เราก็ได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่าค่ะ คราวนี้ มาดูเคล็ดไม่ลับเกี่ยวกับการลดน้ำหนักกันต่อเลยค่ะ * ข้อแรก ให้เราละลึกไว้เสมอว่า เมื่อเราอายุมากขึ้น เราจะต้องกินน้อยลง อันนี้เคยคุยกับคุณหมอเฉก แห่งชมรมอยู่ 100 ปี ท่านบอกว่า เมื่อเราอายุ 30 ปีให้กินน้อยลงจากที่สมัยหนุ่ม ๆ สาว ๆ เคยกินเสียครึ่งหนึ่ง และเมื่ออายุ 60 ก็ให้ลดปริมาณลงจากเมื่อตอนอายุ 30 เสียครึ่งหนึ่ง ถ้าเรากินเท่าเดิม จะไปมีชีวิตอยู่ได้ยังไงไหว * ข้อถัดมา เลิกนิสัยกินจุบกินจิบเสียนะคะ กินเป็นมื้อ ๆ แค่พออิ่ม พวกขนม ขอบขบเคียว ที่เคยกินไปทำงานไป กินไปดูทีวีไป กินไปคุยไป เลิกให้หมดค่ะ * เครื่องดื่มรสหวานทั้งหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำอัดลม เลิกนะคะ น้ำเปล่าดีที่สุด และดื่มน้ำเปล่าให้มาก ๆ ในแต่ละวันด้วย * ทำตัวเป็นคนขยันค่ะ หาโน่นหานี่ทำ จะได้ไม่นั่งเฉย ๆ เพราะพอนั่งเฉย ๆ ก็จะเผลอ หยิบอะไรต่อมิอะไรมากินอีก * ออกกำลังที่กล้ามท้องด้วยการแขม่วท้องบ่อย ๆ ค่ะ นึกได้เมื่อไหร่ ก็ให้รีบทำ * มื้อเย็น กินน้อย ๆ แล้วรีบไปนอนซะ ก่อนที่จะหิวขึ้นมาอีก * มื้อเช้า กินให้อิ่ม แต่ไม่ต้องถึงกับจุกนะคะ เวลากินก็อย่ารีบ ค่อย ๆ กิน ถ้ารีบจะทำให้เรากินได้เยอะ * ถ้าเครียด ก็ไปออกกำลังกายค่ะ บางคน ยิ่งเครียดก็ยิ่งกิน ก็เลยไปกันใหญ่ * ข้อสุดท้าย หากระจกบานใหญ่มาติดไว้ในห้องค่ะ เอาแบบให้เห็นเต็มตัวเลยนะ ดูรูปร่างตัวเองบ่อย ๆ และต้องคิดเสมอว่า เราจะต้องหุ่นดีกว่านี้ให้ได้ หรืออาจจะหาชุดสวย กางเกงที่อยากใส่ เอามาวางไว้หน้ากระจก ซ้อมใส่มันทุกวันเลย วันนี้ ยังยัดขาไม่ลง อีกสองอาทิตย์ยัดลงแล้ว แต่ซิบยังรูดไม่ขึ้น ก็ค่อย ๆ ลดลงไปจน ใส่กางเกงได้สวยสมใจ แถมความภูมิใจอีกด้วยค่ะ และคุณผู้หญิงค่ะ เมื่อได้น้ำหนักได้รูปร่างที่พอใจแล้ว ก็พยายามรักษาไว้ ปรับพฤติกรรมการกินให้ได้ ที่สำคัญเมื่อไหรก็ตามที่กางเกงตัวโปรดเริ่มคับ ๆ อย่าเปลี่ยน size เด็ดขาด ที่ต้องเปลี่ยนคือพฤติกรรมของเราเองนั่นแหละ ****************************************************************************************** หากท่านยินดีต้องการให้เราช่วยโดยใช้หลักโภชนาการกรุณากรอกรายละเอียดของตัวท่านได้ที่... www.geocities.com/healthclub999/easythin ==================================================== ขออภัยหากเมลนี้ถูกส่งไปยังคุณโดยบังเอิญ กรุณาแจ้ง unsubscribe มาที่ [EMAIL PROTECTED] -- To unsubscribe, e-mail: <mailto:[EMAIL PROTECTED]> For additional commands, e-mail: <mailto:[EMAIL PROTECTED]>